วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่าแค่ล้อมคอก



  อุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ชนกับรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ บนถนนมิตรภาพ ใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เช้ามืดวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก นำมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่ สะเทือนใจให้คนทั้งประเทศอีกครั้ง

หากยังจำกันได้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ข่าวร้ายจากรถพ่วงมหาภัยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งเฉี่ยวชนสะพานลอยหล่นทับรถปิกอัพ, ชนกับรถตู้โดยสาร เฉี่ยวชนรถบัส เฉี่ยวชนรถเก๋งและกระบะ 7 คันรวด ที่ จ.ปราจีนบุรี ฯลฯ และล่าสุดที่ จ.สระบุรี แต่ละเหตุการณ์ล้วนสะเทือนขวัญและน่าเศร้าใจยิ่ง

     ขณะที่ยวดยานอีกหลายประเภท ตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์ รถโดยสารประจำทาง รถตู้โดยสาร ปิกอัพ ฯลฯ ก็ประสบอุบัติเหตุใหญ่เล็ก ก่อให้เกิดความสูญเสียและสร้างความเสียหายในทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ามหาศาล ส่วนใหญ่มาจากการขับขี่โดยประมาท ไม่เคารพกฎจราจร มีข่าวให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน

     นำมาสู่คำถามว่า เพราะเหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องละเลยไม่ใส่ใจ ปล่อยให้อุบัติเหตุรุนแรงเกิดขึ้นถี่ยิบ โดยไม่พยายามหาทางป้องกันแก้ไข ขณะเดียวกัน วิธีการที่นำมาใช้ ส่วนใหญ่เป็นการล้อมคอก แก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่าเน้นดำเนินมาตรการป้องปรามเพื่อลดอุบัติเหตุอุบัติภัย บนท้องถนนอย่างจริงจัง ด้วยการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนใช้รถใช้ถนนอย่างระมัดระวังไม่ประมาท ซึ่งน่าจะช่วยให้ความสูญเสียที่จะมีตามมาลดน้อยลง

ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่อุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นล่าสุด กระตุ้นเตือนให้กระทรวงคมนาคมหันมาตระหนักและให้ความสำคัญกับภัยอันตรายจากการใช้บริการรถโดยสารประจำทางมากขึ้น โดย รมว.คมนาคม ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สั่งการให้บริษัท ขนส่ง จำกัด ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแล

การเดินรถโดยสารประจำทาง ปรับปรุงระบบความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร ขณะเดียวกันก็กำชับให้กรมการขนส่งทางบกเข้มงวดในการออกใบอนุญาตขับขี่ จัดฝึกอบรม คนขับรถบรรทุก การจัดสร้างจุดพักรถ ซึ่งน่าจะช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยในการเดินทางมากขึ้น

     อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการจะลดอุบัติเหตุอุบัติภัยบนท้องถนนอย่างจริงจัง ให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่าจะได้รับความสะดวก ปลอดภัยมากขึ้น รัฐบาลอาจต้องกำหนดแผนและมาตรการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนนทั้งระบบตั้งแต่ปรับปรุงซ่อมแซมถนน จุดตัด ทางแยกที่ชำรุดทรุดโทรม มีปัญหาด้านความปลอดภัย ปรับปรุงป้ายบอกทาง อาณัติสัญญาณไฟ พร้อมกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยระบบรถทั้งรถโดยสาร รถบรรทุก รถพ่วง ตลอดจนยานพาหนะอื่น ๆ ให้ได้มาตรฐาน

     ขณะเดียวกันก็หมั่นตรวจสอบติดตาม และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดกับผู้ละเมิดหรือฝ่าฝืน ถ้าหากยังนิ่งนอนใจ ไม่เร่งปรับเปลี่ยนนโยบาย มาตรการ กฎกติกายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้เห็นผลในเร็ววัน นอกจากความสูญเสียจะเกิดขึ้นอีกซ้ำรอยสร้างความหวาดผวาให้ทั้งกับคนไทยและต่างชาติแล้ว การผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ศูนย์กลางธุรกิจการค้า การลงทุน ฮับการท่องเที่ยว และอีกสารพัดฮับ ก็คงได้แค่ฝันแต่ไปไม่ถึง


ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >>แวดวงรถยนต์

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ล้อแม็ก ทำไมต้องใส่ใจเรื่องความเบา?



รถยนต์รุ่นท็อปเดี๋ยวนี้เป็นล็อแม็กกันหมดแล้ว เว้นแต่รถรุ่นล่างสุดที่มักจะเป็นล้อกะทะ ใครที่มีเงินก้อนอยากจะแต่งรถก็มักจะนึกถึงการเปลี่ยนแม็กก่อน "ล้อแม็ก" เป็นอุปกรณ์ประดับยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับแรกๆ ของคนที่จะแต่งรถ หลายคนเล็งแม็กไว้ก่อนจะได้รถซะอีก

ไม่ว่าจะเปลี่ยนเพื่อการใช้งาน หรือความสวยงาม อยากแต่งซิ่ง หรือใส่เท่ๆ เวลาเลือกล้อแม็กสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจคือเรื่อง "ความเบา" เคยสงสัยไหมว่าทำไม? ล้อแม็กที่มุ่งเน้นเรื่องความเบานั้นแน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นที่ต้องการของนักแข่งรถ เพราะน้ำหนักที่เกิดขึ้นกับรถนั้นมีผลกับเวลาและความเร็วต่อรอบในการแข่งขัน อิทธิพลนั้นส่งผลมาถึงผู้ที่ชื่นชอบการแต่งรถ ให้พยายามที่จะเลือกและหาล้อแม็กที่มีความเบา

ล้อแม็กเบานั้นมีผลดีอย่างไร?
ล้อแม็กมีน้ำหนักเบากว่าล้อกะทะหรือล้อเหล็ก น้ำหนักที่เบานั้นส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่ คือ รถมีการตอบสนองต่อคำสั่งได้ดีและฉับไวขึ้น ทั้งด้านอัตราเร่ง การเบรก เสถียรภาพในการเข้าโค้ง ความเบาของล็อแม็กนั้นสัมพันธ์กับน้ำหนักของรถ สำหรับรถขนาดใหญ่น้ำหนักมากอาจจะไม่เห็นผลเรื่องของสมรรถนะช่วงล่างเท่าไหร่ แต่สำหรับรถขนาดเล็กแล้วน้ำหนักที่ลดลงไปของล้อและองค์ประกอบของช่วงล่างทั้งหมดจะส่งผลโดยตรงกับการตอบสนองของช่วงล่างและการควบคุมบังคับ ช่วงล่างจะทำงานได้ฉับไว ควบคุมได้ฉับไว และวิ่งได้นิ่มนวลกว่า นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิงได้ด้วย



ล้อแม็กก็เปรียบเสมือนรองเท้า รองเท้ายิ่งเบา ก็ยิ่งเดินสบาย ส่วนรองเท้าที่หนักเวลาเราเดินหรือวิ่งจะรู้สึกลำบาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญคือความแข็งแรง แม้ล้อแม็กนั้นจะมีน้ำหนักเบาแต่ต้องแน่ใจว่าความแข็งแรงนั้นจะไม่ลดลงไปด้วย เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ อีกทั้งความเบานั้นต้องสัมพันธ์กับขนาดของเครื่องยนต์ เช่น รถขนาดใหญ่ถ้าใส่แม็กเบาเกินไปก็จะทำให้สมรรถนะในการขับขี่ไม่มั่นคงนัก


ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >>แวดวงรถยนต์

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

“คนกรุง“ กับ “แท็กซี่“





     ปัญหาคนกรุงกับแท็กซี่กำลังไต่ระดับเป็น "คู่กัด" ของสังคมเมืองบนท้องถนนในกรุงเทพฯ ที่ฮอตฮิตเป็นประเด็นบ่อยคือแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือเลือกผู้โดยสารในเส้นทางที่อยากจะไปเท่านั้น บ้างก็เลือกเฉพาะผู้โดยสารต่างชาติ ปัญหาคนกรุงกับแท็กซี่ จากแค่สร้างความหงุดหงิดกวนใจ เริ่มกลายเป็นปัญหาบานปลายขึ้นเรื่อย ๆ 

ถาม ว่ากรุงเทพฯมีปัญหาแท็กซี่ขาดแคลนหรือไม่ ถ้าดูจากสถิติทั่วกรุงเทพฯมีรถแท็กซี่จดทะเบียนให้บริการถึง 108,500 คัน จำนวนแท็กซี่ระดับนี้มีไม่น้อย แต่ที่ยังมีปัญหาแท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร มีตั้งแต่ปัญหาคลาสสิก คนขับเลือกผู้โดยสาร ไปจนถึงอู่รถที่จอดรถค้างเติ่ง ขาดผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะถูกต้องมาเช่า

     ประเด็นการรีบ เร่งทำเวลาปั่นเงินเพื่อคืนค่าเช่าของคนขับทำให้มีอาการ "เลือก" ผู้โดยสารเพื่อประหยัด และทำเวลาให้ได้เม็ดเงินและรายได้คุ้มค่าการวิ่งรถที่สุด ผลคือมีร้องเรียนปัญหาแท็กซี่ไม่รับผู้โดยสารไปยังกรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่ปี 2555 ถึงเดือนเมษายน 2556 มีผู้ร้องเรียน 20,162 ราย ปัญหานี้ไล่เลี่ยมากับถูกร้องเรียนว่า คนขับแท็กซี่พาขับรถเส้นทางอ้อม ที่ร้องเรียนระดับหลักหมื่นเช่นกัน ทั้งหมดนี้คือแท็กติกของคนขับที่จะเพิ่มเม็ดเงินให้พอจ่ายค่าเช่าและเป็นรายได้

อันที่จริงบ้านเราใช้นโยบายการจดทะเบียนรถแท็กซี่เสรีในกรุงเทพฯแบบไม่จำกัด จำนวนรถ แทนที่จะได้รับบริการขนส่งที่คุ้มค่าทั่วถึงกับความต้องการของประชาชน เพราะทำให้เกิดการแข่งขันตั้งแต่สภาพรถใหม่ที่จะต้องนำมาวิ่ง และมองว่าผู้ขับขี่ได้เช่ารถราคาถูก เจ้าของอู่ไม่ปรับราคาตามใจชอบได้ เพราะมีการแข่งขันสูง

     แต่ข้อเท็จจริงกลับตรงกันข้าม เมื่อไปดูต่างประเทศมีแนวทางน่าสนใจ อย่างเพื่อนบ้านเรา เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย วิธีการบริหารคือให้รัฐเข้ามาดูแลบริษัทเอกชน ที่ให้บริการ แท็กซี่ เป็นลักษณะที่รถสาธารณะมีการควบคุม ไม่อนุญาตให้บุคคลธรรมดาจดทะเบียน ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ส่วนคนขับเป็นเหมือนพนักงานของบริษัท จึงมีสวัสดิการดูแล รายได้ก็เป็นการแบ่งกันตามจำนวนที่ทำได้จริง อีกจุดหนึ่งคือไม่ใช่จะขับไปได้ทุกที่ เมื่อจะไปขับพื้นที่ไหนต้องมีการขออนุญาตทางพื้นที่ที่จะไปขับด้วย

อีก หนึ่งมุมมองที่น่าสนใจจาก "วิฑูรย์ แนวพานิช" ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในกรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์กับประชาชาติธุรกิจออนไลน์ว่า ปัญหาคุณภาพของผู้ขับขี่รถแท็กซี่เป็นจุดเริ่มต้น 

"ผู้ประกอบการ หรือเจ้าของรถแท็กซี่ หากยินยอมให้ผู้อื่นที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะเช่า หรือขับมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท หากไม่จัดทำประวัติคนขับรถแท็กซี่จะมีความผิดปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่การลงโทษส่วนมากก็จะจบเพียงแค่คนขับ ไม่สาวไปถึงอู่ที่อนุญาตให้เช่า"

     นี่ จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาสะท้อนให้เห็นว่า การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร หรือความผิดประเภทขับรถอ้อม ปล่อยผู้โดยสารลงกลางทาง เหล่านี้เป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้แก้ถูกที่คัน แม้จะมีการถอนใบอนุญาตขับขี่รถแท็กซี่ระดับ 2-3 พันรายต่อปี แต่ก็เป็นการลงโทษไปที่ตัวบุคคล ไม่ถึงผู้ประกอบการ นั่นจึงไม่ทำให้เกิดสำนึกรับผิดชอบต่อผู้โดยสารร่วมกัน

เช่นนี้รูป แบบบริษัทให้บริการแท็กซี่เอกชนที่มีรัฐดูแล จึงถูกหยิบยกมานำเสนอทุกครั้งที่มีการพูดถึงปัญหาแท็กซี่ เพราะต้องเพิ่มความรับผิดชอบตั้งแต่การอบรม คัดเลือกพนักงานขับรถให้มีคุณภาพ และสามารถลงโทษผู้ขับขี่รถได้ชัดเจนกว่า นอก จากนี้ ปัญหาเชื่อมโยงถึงผู้โดยสาร ยังมาจากเรื่องค่าเช่ารถแท็กซี่ ด้วยรูปแบบการจ่ายค่าเช่ารถที่ถูกกำหนดราคาไว้แล้ว ดังนั้นจะขับได้ลูกค้ามากหรือน้อยก็ต้องจ่ายราคาเช่ารถดังกล่าว ทำให้ต้องวิ่งทำรอบเยอะ ส่งผลให้ผู้ขับขี่เลือกผู้โดยสาร และปฏิเสธการไปเส้นทางรถติดหรือเส้นทางไกล เนื่องจากไม่คุ้มวิ่งทำรอบได้น้อยกว่า 

     ประธานเครือข่ายสหกรณ์ แท็กซี่ กรุงเทพฯ ยกกรณีต่างประเทศใช้วิธีแก้ปัญหาค่าเช่ารถแท็กซี่ที่มีหลายราคาลดหลั่นไป และส่งผลต่อราคาโดยสารด้วย อาทิ หากขับรถเก่าค่าเช่าก็ถูกลง และส่งผลต่อราคาให้บริการที่ถูกกว่ารถรุ่นใหม่ เหล่านี้เป็นสิ่งจูงใจให้ผู้โดยสารเลือกใช้บริการรถรุ่นเก่าด้วย แต่ รูปแบบบริษัทรถแท็กซี่ลักษณะนี้อาจไม่คุ้มในแง่ธุรกิจ เพราะยังมีเรื่องค่าบริหารจัดการที่สูงกว่ารูปแบบปัจจุบัน กระนั้นไม่นานจากนี้ เมื่อเข้าสู่ความเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อู่รถแท็กซี่ในกรุงเทพฯอาจต้องตื่นตัวก่อนที่จะมีบริษัทต่างชาติเข้ามาแย่ง พื้นที่และให้บริการได้ดีกว่าในอนาคต...


ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >>แวดวงรถยนต์ 

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตร.ถึงกับอึ้ง หนุ่มแสบขับรถ“ไร้พวงมาลัย“ใช้แค่คีมล็อกบังคับ


สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ว่าตำรวจออสเตรเลียถึงกับต้องผงะอึ้ง เมื่อพบว่า หนุ่มทำผิดกฎจราจรรายหนึ่งได้ขับรถโดยไม่มีพวงมาลัย มีเพียงคีมล็อกบังคับ ที่ใช้แทนพวงมาลัยเท่านั้น

     รายงานระบุว่า ตำรวจเมืองแอดิแลด ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ได้เข้าหยุดรถคันหนึ่ง เพราะเห็นว่าขับรถที่อันตราย เนื่องจากยางล้อ 2 ล้อพองโป่ง ก่อนจะเข้าไปดูในรถดังกล่าว ถึงกับต้องผงะ เพราะพบว่า รถไม่มีพวงมาลัย แต่มีเพียงคีมล็อกใช้แทนอุปกรณ์พวงมาลัย ก่อนที่ตำรวจจะตั้งข้อหาหลายกระทงต่อเขา รวมทั้งขับรถโดยไม่ทำประกัน ขับรถไม่มีการจดทะเบียน[b]รถยนต์ และรถยนต์ไร้คุณภาพ

     นอกจากนี้ จากการตรวจสอบผลปัสสาวะยังพบว่า เขาเสพยาบ้าและกัญชา และตำรวจยังต้องสงสัยว่า รถยนต์นี้ได้เคยก่อเหตุชนรถยนต์แล้วหนี ที่โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ เมื่อเร็วๆ นี้ด้วย และภายหลังเหตุการณ์นี้ ด้านตำรวจออสเตรเลียตอนใต้ยังได้เตือนบรรดาผู้ขับรถยนต์ให้ระมัดระวังการขับขี่รถยนต์ด้วย

     อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ภายใต้มาตรการใหม่ที่เมืองแอดิแลดนำมาใช้ทั่วเมือง โดยมุ่งตรวจสอบผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎห้ามการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ และไม่ใช้เข็มขัดนิรภัย ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จอย่างดี เนื่องจากสามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดได้กว่า 1,700 คน

ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >>แวดวงรถยนต์

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โพลชี้ผู้โดยสารทำให้คนขับขาดสติ



     นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ต่างทราบดีว่า วิธีการขับขี่อย่างปลอดภัยนั้นมีอะไรบ้าง แต่บ่อยครั้ง สิ่งที่เหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก ดังตัวอย่างที่เห็นได้จากผลการสำรวจที่ฟอร์ดได้มีการสนับสนุนให้จัดทำขึ้น โดยบริษัทวิจัยด้านการตลาด เพนน์ โชเอน เบอร์แลนด์ (Penn Schoen Berland)

ในการสำรวจครั้งนี้ ผู้สำรวจได้สอบถามความคิดเห็นวัยรุ่น 500 คน และผู้ปกครองอีก 500 คนในประเทศสหรัฐ เกี่ยวกับพฤติกรรมและมุมมองด้านการขับขี่ โดยผลการสำรวจครั้งนี้ เริ่มจากพฤติกรรมวอกแวกหรือขาดสมาธิระหว่างขับขี่นับเป็นปัญหาที่ผู้ปกครองแสดงความเป็นห่วงอย่างมาก โดยผลการสำรวจระบุว่า กิจกรรมยอดฮิตที่มักทำให้วัยรุ่นเกิดอาการวอกแวกระหว่างขับขี่นั้น มีสัดส่วนดังนี้ 62% ยอมรับว่าเคยเกิดอาการวอกแวก เพราะถูกรบกวนจากผู้ที่โดยสารมาด้วย, 61% ยอมรับว่าเคยทานอาหารหรือเครื่องดื่มขณะขับรถ, 42% บอกว่า ตนชอบเปิดวิทยุเสียงดังจนกลบเสียงจากรถคันอื่นๆ บนถนน และ 51% บอกว่า ตนมักฟังเพลงจากไอพอดหรือเอ็มพี 3 ขณะขับรถ

     นอกจากนี้ จากผลการสำรวจทั้งกลุ่มวัยรุ่นและผู้ปกครองมีความเห็นตรงกันว่า วัยรุ่นหญิงขับรถปลอดภัยกว่าวัยรุ่นชาย ส่วนผลการสำรวจที่น่าสนใจอื่นๆ ระบุว่า วัยรุ่นหญิง 87% ผู้ปกครอง 78% และวัยรุ่นชาย 73% มีความเห็นว่า วัยรุ่นชายมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงบนท้องถนนมากกว่าวัยรุ่นหญิง, วัยรุ่นหญิง 80% ผู้ปกครอง 72% และวัยรุ่นชาย 72% มีความเห็นว่า วัยรุ่นชายมีแนวโน้มที่จะเมาแล้วขับมากกว่าวัยรุ่นหญิง, วัยรุ่นหญิง 81% วัยรุ่นชาย 77% และผู้ปกครอง 75% มีความเห็นว่า วัยรุ่นชายมีแนวโน้มที่จะขับรถเร็วกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดมากกว่าวัยรุ่นหญิง, วัยรุ่นชาย 81% วัยรุ่นหญิง 78% และผู้ปกครอง 67% มีความเห็นว่า วัยรุ่นหญิงมีแนวโน้มที่จะใช้โทรศัพท์ขณะขับรถมากกว่าวัยรุ่นชาย

     จากการสำรวจนี้ยังพบด้วยว่า แม้ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมเสี่ยงโดยรวมอยู่ในระดับต่ำ แต่ผู้ปกครองกลับมีแนวโน้มที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้งานขณะขับรถมากกว่าวัยรุ่นถึง 40% (ผู้ใหญ่ยอมรับว่าตนใช้โทรศัพท์ขณะขับรถถึง 28% เทียบกับวัยรุ่น 20%)

"จากผลสำรวจนี้แสดงเห็นว่า ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำให้รถยนต์ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น" นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทยกล่าว และว่า ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร ฟอร์ด ซิงค์ ที่ฟอร์ดพัฒนาขึ้นร่วมกับไมโครซอฟท์ เป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารแบบแฮนด์ส-ฟรี (Hands-free) ช่วยให้ผู้ขับขี่สั่งงานโทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์เพื่อความบันเทิงแบบดิจิตอลแทบทุกชนิดได้ผ่านการเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธหรือช่องเชื่อมต่อยูเอสบี ผู้ขับขี่จึงสามารถสั่งงานผ่านปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยหรือใช้คำสั่งเสียงควบคุมการทำงานของซิงค์ได้ ปัจจุบัน ฟอร์ด ซิงค์ ติดตั้งอยู่ในรถฟอร์ด โฟกัส ใหม่ และเร็วๆ นี้ ผู้ขับขี่รถยนต์นั่งขนาดเล็กจะได้สัมผัสการทำงานของฟอร์ด ซิงค์ ในรถฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยช่วงปลายปีนี้

ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >> แวดวงรถยนต์ 

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

2014 Chevrolet Impala คว้ารางวัลด้านความปลอดภัย 5 ดาว จากหน่วยงาน NHTSA



โมเดลจากค่ายผู้ผลิตสัญชาติอเมริกันอย่าง 2014 Chevrolet Impala เพิ่งได้รับรางวัล Overall Vehicle Score สูงสุดถึง 5 ดาว ในเรื่องระบบความปลอดภัยจากหน่วยงานด้านความปลอดภัย National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA)

Impala ได้รับการทดสอบในโปรแกรม New Car Assessment Program ของหน่วยงาน NHTSA โดยเป็นโมเดลตระกูล sedan ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐาน รวมถึงเรดาร์ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการชนด้วยเช่นกัน

ด้าน Gay Kent ผู้อำนวยการฝ่าย Vehicle Safety และ Crashworthiness ของ GM กล่าวว่า “ระบบความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกค้าทุกคน และ Impala ก็ถือเป็นมาตรฐานตัวใหม่สำหรับรถตระกูล sedan จากค่าย Chevrolet” พร้อมเสริมอีกว่า “2014 Chevrolet Impala ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดหาระบบความปลอดภัยด้านการชนชั้นเยี่ยม และเสนอเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยหลายอย่างให้แก่ลูกค้า ซึ่งไม่เคยพบมาก่อนในรถจากค่าย Chevrolet”

ท่ามกลางระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่มีอยู่ใน Impala คันนี้ก็คือ ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ (Full-speed-range Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยเบรกลดแรงปะทะ (Crash Imminent Braking), ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนออกนอกเลน, ระบบเตือนจุดบอดด้านข้าง, ระบบเตือนการชนจากทางด้านหลัง, ระบบช่วยจอด พร้อมฟังก์ชั่น Hold และ Hill Start Assist และอื่นๆ

อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยอื่นๆ ยังรวมถึงถุงลมนิรภัย 10 ใบ, ระบบควบคุมการทรงตัว StabiliTrak, ระบบ All-speed Traction Control, ระบบเบรก ABS และระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์

หน่วยงาน NHTSA ยังเน้นย้ำด้วยว่า Impala คันนี้ ยังมีการใช้ GPS และเทคโนโลยีด้านมือถือ เพื่อขอความช่วยเหลืออัตโนมัติ ในกรณีที่เกิดการชนด้วยเช่นกัน



ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >>แวดวงรถยนต์ 

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แต่งมาโชว์ Yaris RED 1500 เพิ่มพิกัดความโฉบเฉี่ยว


Yaris RED 1500

 เพิ่มพิกัดความโฉบเฉี่ยว ในบรรดารถซิตี้คาร์ที่ขายดีอยู่เวลานี้ ต้องมี โตโยต้า ยาริส ติดโผอยู่ในระดับแถวหน้า เพราะเป็นรถ ขนาดเล็กที่มีสัดส่วนกะทัดรัด เหมาะกับใช้งานในเมือง ให้ความคล่องตัวสูง ซึ่งเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบรถมีดีไซน์ แต่จะให้ไฉไลกว่าเดิมต้องเพิ่มความโฉบเฉี่ยวเข้าไปอีกด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทที่สร้างภาพให้เปลี่ยนไปได้ทันที เช่นเดียวกับ Yaris Red ที่วางมาดอยู่นี้  
ก่อนที่จะไปกล่าวถึงการตกแต่งตัวรถ มาดูภายในห้องเครื่องกันดีกว่าว่ามีการปรับแต่งอย่างไรบ้าง เริ่มจากฝากครอบเครื่องที่สั่งทำขึ้นมาเฉพาะรุ่นด้วยเคฟลาร์คุณภาพดี ที่ออกแบบให้เข้ารูปได้อย่างลงตัว โดยสามารถทนความร้อนของเครื่องยนต์ได้ และให้ความสวยงามไปในตัว พร้อมกับฝาน้ำมันเครื่องเป็นของ TRD

  

ติดตั้งสตรัทค้ำช็อกแอบซอร์เบอร์แบบอะลูมิเนียมของ CARBING  พร้อมกับช่วงล่างได้ทำการปรับแต่งด้วยช็อกแอบซอร์เบอร์ของ TEIN  ที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะรุ่นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยด้านหน้าเป็นแบบสตรัทปรับเกลียว ส่วนด้านหลังเป็นช็อกแอบซอร์เบอร์แยกกับสปริง ซึ่งฐานของสปริงสามารถปรับสูง-ต่ำได้ และติดกันโคลงของ CARBING ทั้งหน้า-หลัง
สำหรับการปรับโฉมภายนอกได้อาศัยชุดบอดี้พาร์ทของแท้ C-ONE จากญี่ปุ่น ซึ่งผลิตขึ้นมาให้กับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าขนาดใหญ่ที่มีกระจังหน้าในตัว  พร้อมกับช่องดักลมตรงกลางและช่องด้านข้างที่ดีไซน์โค้งเรียว  ส่วนแผงกระจังหน้ามาในแบบตะแกรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด พร้อมติดโลโก้ของ VITZ ขณะที่ไฟหน้าได้เพิ่มความสว่างด้วยหลอดไฟแบบ HID ของ AUTO ART ที่มีความเข้มของแสงถึง 8,000 K พร้อมกับบัลลาสต์  จึงให้แสงสีฟ้าออกมาอย่างสวยงาม
มาที่ฝากระโปรงหน้าได้ปรับเปลี่ยนใหม่ด้วยการสั่งทำให้เป็นเคฟลาร์ทั้งบานเพื่อให้มีน้ำหนักเบา  พร้อมกันนั้นได้ดีไซน์ตามรูปแบบของ C-ONE ซึ่งจะมีการเว้าทำเป็นช่องระบายความร้อนแบบ 2 ช่อง จึงเพิ่มความน่ามองในสไตล์สปอร์ตที่ช่วยให้ดุดันขึ้น ส่วนที่กระจกมองข้างได้จับหูช้างมาหุ้มด้วยเคฟลาร์ เช่นเดียวกับกาบเสาประตูทั้งสี่ที่เป็นเคฟลาร์ รวมไปถึงฝาปิดถังน้ำมันแบบเคฟลาร์ 

 

ส่วนด้านข้าง แน่นอนว่าจะต้องปรับเปลี่ยนล้อแม็กใหม่เป็นขอบ 17 นิ้ว ซึ่งเป็นของ VOLK RACING ผลิตภัณฑ์จาก RAYS  ENGINEERING ซึ่งเป็นที่ยอมรับในหมู่นักซิ่งว่ามีคุณภาพคุ้มกับราคาที่แพง  เพราะใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา และยังดีไซน์ได้โดนใจในสไตล์ก้านแม็กสีขาว 10 ก้าน ที่ตัดกับขอบล้อโครเมียม  พร้อมนอตล้ออะลูมิเนียมแบบยาวสีแดงจาก RAYS ที่มีระบบป้องกันขโมย โดยจะมีนอตหนึ่งในสี่ตัวที่จะต้องใช้บล็อกขันแบบพิเศษที่แถมมาให้เท่านั้น ส่วนยางนอกเป็นของ YOKOHAMA รุ่น DNA bB ขนาด 205/45ZR 17


และที่ขอบชายล่างด้านข้างยังได้แนบด้วยสเกิร์ตของ C-ONE ที่มีลูกเล่นทำเป็นครีบที่ปลายสเกิร์ต สำหรับกันชนหลังเป็นของ C-ONE ที่สามารถสวมเข้ากับตัวลงได้อย่างกลมกลืน แต่มีดีไซน์ให้เข้าตาอยู่พอตัว ด้วยการเจาะด้านข้างระหว่างป้ายทะเบียน และยังมีช่องโผล่ของหม้อพักใบปลายของ C-ONE ขณะที่ไฟท้ายได้สลับมาเป็นของ VITZ พร้อมกับโลโก้กลมของ VITZ คู่กับอักษร VITZ ไว้ที่ฝากระโปรงหลังด้วย แต่ที่เด่นสุดเห็นจะเป็นสปอยเลอร์หลังคาที่สั่งทำใหม่เป็นแบบเคฟลาร์ในสไตล์ของ C-ONE
ภายในห้องโดยสารได้ตกแต่งไม่น้อยกว่าภายนอก โดยเฉพาะแผงสวิตช์แอร์ที่หุ้มด้วยเคฟลาร์สีบรอนซ์ตัดด้วยขอบด้านนอกที่เป็นเคฟลาร์สีดำ และได้ออกแบบเบ้าครอบจอมอนิเตอร์ขึ้นมาใหม่ในแบบเคฟลาร์ที่บริเวณคอนโซลฝั่งซ้าย ส่วนด้านบนคอนโซลหน้าได้วางเกจวัดไว้เพียบเป็นของ DEFI  เพื่อไว้วัด OLI PRESS, FUEL PRESS, OIL TEMP., TER TEMP. และ EXT TEMP.ส่วนเบาะนั่งได้ขยับมาเป็นของ RECARO ในแบบสีแดง และที่แผงประตูได้ปรับแต่งเป็นแผงแบบเคฟลาร์ทั้งประตูหน้า-หลัง แถมด้วยครอบบันไดสเตนเลสของยาริส


เป็น โตโยต้า ยาริส อีกคันที่ไม่ย่ำอยู่กับที่ แต่มีดีไซน์ในการปรับแต่งเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้มีความเท่มากยิ่งขึ้น ซึ่งใครก็ต้องหันมามอง


ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >>แวดวงรถยนต์ 

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

พริตตี้ FAST AUTO SHOW 2013



เริ่มแล้ว งาน "FAST Auto Show Thailand" งานแสดงและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ และรถยนต์ใช้แล้ว ภายใต้คอนเซปต์ "ซื้อง่าย ขายคล่อง เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่" ครั้งที่ 2

FAST AUTO SHOW THAILAND 2013 ต่อยอดความสำเร็จมหกรรมรถคันแรกเมื่อปีที่ผ่านมาจำนวน 4,800 คัน เตรียมเปิดเวทีเอาใจคนอยากมีรถ ชั้นนำที่วางใจได้ภายใต้คอนเซปต์ FAST ที่มาพร้อมเงื่อนไขพิเศษจากธนาคารเกียรตินาคินและบริษัทไฟแนนซ์ อนุมัติสินเชื่อเร็ว ซื้อง่าย ขายคล่อง ให้เลือกคันที่ชอบถอยคันที่ใช่ อย่างจุใจ 5วันเต็ม ระหว่างวันทึ่ 17 -21 กรกฎาคม 2556 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา บนพื้นที่จัดงานกว่า 10,000 ตร.ม รถยนต์มือสองทั้งในเขต กทมและปริมณฑลกว่า13 ค่ายรถยนต์ ที่ผ่านการรับรองคุณภาพโดย อาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจผู้เชี่ยวชาญรถมือสอง นอกจากนี้ยังมีบริษัทเครื่องเสียงติดรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งมากมาย รวมออกบูธแสดงในครั้งนี้ 

พริตตี้ สาวสวยของงานแสดงรถยนต์ที่ขาดไม่ได้





ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >>แวดวงรถยนต์ 

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จัดอันดับ 11 เส้นทาง“รถติด”ที่สุดในกรุงเทพฯ




   เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งถึงการจราจรบนท้องถนน หมายเลข 1197 ถึงปัญญาการจราจรติดขัด ตั้งแต่เดือน มกราคม - มิถุนายนต์ที่ผ่านพบว่า ถนนลาดพร้าวรถติดมากที่สุด รองลงมาคือ ถนนพระราม 4 , ถนนรัชดาภิเษก ,ถนนสุขุมวิท และถนนพหลโยธิน ตามลำดับ

     สาเหตุหลักมาจากอุบัติเหตุและรถเสีย รวมถึงมีแนวก่อสร้างบนผิวการจราจร และปัญหามีรถจอดบนพื้นผิวการจราจรเป็นจำนวนมากจึงทำให้เกิดปัญหาการจรจรติดขัดขึ้น โดยอันดับถนนที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดใน กรุงเทพฯมีดังนี้

     ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจัดการลงพื้นที่ ตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อมีเหตุการณ์ อาทิเช่น รถเสีย น้ำท่วม หรืออุบัติเหตุ ต้องเข้าพื้นที่เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางออกจากพื้นผิวการจราจรโดยเร็วที่สุด และจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยส่วนของการบังคับใช้กฎหมายตำรวจจราจรมีอำนาจจับกุมได้ทั้งพื้นผิวจราจร และบนทางเท้าด้วย


ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >>แวดวงรถยนต์ 

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ใบปัดน้ำฝน สิ่งสำคัญที่ถูกมองข้าม



หน้าฝนของทุกปี ผู้ใช้รถทุกท่านคงจะมีข้อสงสัยต่างๆของใบปัดน้ำฝนของรถที่ใช้งานอยู่ว่ายังสามารถใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ และจะมีวิธีการดูแลใบปัดน้ำฝนกันอย่างไร เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่  เราจึงมาคุยกันถึงเรื่องของใบปัดน้ำฝน

“ใบปัดน้ำฝน” จัดเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับรถยนต์ทุกคัน เพราะทำหน้าที่ปัดน้ำ, ปัดเศษใบไม้, แมลง, เศษดินโคลน หรือแม้กระทั่งฝุ่นละอองต่างๆ ที่เกาะอยู่บนกระจกบังลมหน้าและหลัง (หรือในรถบางรุ่นมีติดตั้งที่ไฟหน้ารถด้วย) ให้หลุดออกพร้อมทำความสะอาด  เพื่อทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้น เราจึงควรหมั่นดูแลให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา
 

โดยทั่วไปแล้วอายุการใช้งานตามปกติของใบปัดน้ำฝนอย่างมีประสิทธิภาพจะอยู่ที่ประมาณ 12 เดือน แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปจะละเลยการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนแม้ใบปัดน้ำฝนจะเสื่อมสภาพแล้วก็ตาม ซึ่งการใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพนั้นอาจจะส่งผลเสียไปถึงชิ้นส่วนอื่นๆได้ อีกเช่น กระจกหน้ารถอาจจะเป็นรอยได้  นอกจากนั้นหากใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพในช่วงที่ฝนตกหนักจะยิ่งทำให้ทัศนวิศัยในการขับขี่แย่ลง  ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ปัจจัยที่ทำให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ได้แก่ ความร้อนจากแสงแดดที่ส่องลงมาสะสมอยู่ในกระจก ซึ่งจะทำให้ใบปัดน้ำฝนที่ทำจากยาง กรอบ เสียความยืดหยุ่นและเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ  อีกสาเหตุหลักเกิดจากการใช้งานเช่น กรณีที่ฝุ่นจับที่ยางปัดน้ำฝนก็จะเกิดความสึกหรอขึ้นได้ เหมือนการเอากระดาษทรายไปขัดกระจกและยางปัดน้ำฝน

สำหรับวิธีการสังเกตว่าถึงได้เวลาหรือยังที่จะต้องเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน โดยดูง่ายๆ ว่าการทำงานของใบปัดน้ำฝนนั้นปัดสะอาดหรือไม่  ลักษณะของการปัดน้ำฝนไม่สะอาดเนื่องจากการใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ หรือติดตั้งผิดวิธี คือ เกิดละอองน้ำเป็นสันครึ่งวงกลมหรือแถบเส้น หลังจากที่ปัดกระจกแล้วยังมีละอองน้ำเป็นเส้นสันครึ่งวงกลม หรือเป็นม่านบนกระจกและมัว เกิดจากการใช้ยางปัดที่มีอาการแข็งจนกรอบแตก ทำให้ไม่สามารถปาดน้ำจากหน้า กระจกได้สะอาดไม่สามารถจะรีดเอาน้ำออกจากกระจกได้หมด อีกอาการคือ มีเสียงดังรบกวน ใบปัดจะมีเสียงดังเอี๊ยดๆ และมีอาการกระตุกขณะทำงานซึ่งเกิดจากการเสียดสีระหว่างใบปัดน้ำฝนกับหน้ากระจก

วิธีการดูแลใบปัดน้ำฝน  แม้ว่าใบปัดน้ำฝนจะไม่ได้ใช้งานเป็นประจำก็มีโอกาสชำรุดหรือเสื่อมสภาพได้ เช่น การจอดรถตากแดดนานๆ เป็นประจำจะทำให้ยางปัดน้ำฝนแข็งกรอบ ขาดความยืดหยุ่น เพราะยางต้องแนบกับกระจกที่รับความร้อน  กรณีเช่นนี้จึงมีหลายท่านสงสัยว่า ถ้าหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดไม่ได้ การยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นจะดีหรือไม่  ขอบอกว่าการยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นค้างไว้ทุกวันๆ บ่อยๆ จะทำให้สปริงที่ก้านใบปัดน้ำฝนมีโอกาสเกิดอาการล้า ผลคือ แรงกดบนกระจกบังลมลดลง อาจทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมการปัดน้ำฝนลดลง ซึ่งหากเปรียบเทียบกันระหว่างราคาค่าเปลี่ยนสปริงกับใบปัดน้ำฝน แล้วค่าเปลี่ยนสปริงจะสูงกว่าราคาใบปัดน้ำฝนมากเลยทีเดียว

ดังนั้นถ้าเลือกได้ควรเลือกจอดรถในร่มน่าจะดีกว่า และหมั่นตรวจเช็คสภาพความพร้อมและทำความสะอาดยางปัดน้ำฝนด้วยตนเองสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งมีเทคนิคง่ายๆ คือ ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นและใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาด เช็ดรูดไปตามความยาวของยางปัดน้ำฝนในทิศทางเดียว  หากพบร่องรอยการฉีกขาดหรือแข็งกรอบ ควรรีบจัดหาเปลี่ยนชุดใหม่ เพราะนอกจากจะปัดไม่สะอาดแล้ว ยังทำให้เกิดเสียงดังและสะดุดขณะปัด หรืออาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนกระจกได้อีกด้วย

อีกส่วนที่ต้องดูแลควบคู่ไปกับใบปัดน้ำฝน คือ ถังน้ำที่ใช้สำหรับฉีดกระจกนั้นความจริงแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหา น้ำยาอะไรมาผสมลงไป แต่ถ้าท่านต้องการจะ ให้กระจกสะอาดขึ้นเวลาฉีดล้างกระจกที่มีละอองน้ำมัน-เขม่าควันต่างๆ ก็ลองหามาเติมดูสักนิดก็ได้แต่ต้องระวังอยู่อย่างหนึ่งว่าน้ำยาที่เติมลงไป นั้นจะต้องไม่เป็นอันตรายกับสีของรถ และเวลาเติมจะต้องผสมกับน้ำให้เข้ากันเสียก่อนที่จะ เติมลงในถังส่วนอีกปัญหาที่พบบ่อยก็คือ เวลาที่ต้องการฉีดน้ำล้างกระจกหน้า แต่น้ำที่พุ่งออกมากลับไปคนละทาง หรือไม่ก็ไปฉีดโดนรถคันข้างๆบ้างหรือฉีดไม่ออกแค่ไหลเอื่อยๆอยู่ที่ปากท่อ เท่านั้นถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่ต้องตกใจเพราะท่านเพียงแค่ตั้งรูหัวฉีดเสีย ใหม่ ให้ตรงกับหน้ากระจกเท่านั้นวิธีตั้งก็ไม่ยากแค่หาเข็มหรือจะเป็นปลายไม้ แหลมๆ เสียบเข้าไปที่รูฉีดน้ำแล้วดัดไปทางที่ต้องการโดยลองฉีดน้ำดูเรื่อยๆ เท่านี้ท่านก็ จะได้ล้างกระจกหน้าได้อย่างที่ตั้งใจแล้วยังเป็นการทำความสะอาดหัวฉีดไปใน ตัวด้วยครับ

การเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนนั้นก็มีความสำคัญ  ควรเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่ผลิตจากวัสดุ และเนื้อยางที่มีคุณภาพดี จะสามารถใช้งานได้นาน ใบปัดน้ำฝนที่ดี ส่วนโครงของใบปัดน้ำฝน ควรจะทำจากวัสดุที่เป็นโลหะทั้งโครง เพื่อช่วยป้องกันการกระพือจากแรงลมในขณะใช้ความเร็วสูง และสามารถเพิ่มน้ำหนักในการรีดน้ำให้เรียบอีกด้วย นอกจากนี้ เนื้อยางของใบปัดน้ำฝนก็มีส่วนสำคัญ ควรพิจารณาเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่มีเนื้อยางสูตรเฉพาะ ที่เหมาะสำหรับการใช้ในบ้านเรา ซึ่งจะมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถคงคุณภาพยางไม่ให้เสื่อมเร็วเกินไป ใบปัดน้ำฝนบางชนิดอาจจะมีราคาถูก แต่อาจจะเสื่อมประสิทธิภาพเร็วภายหลังการใช้งาน  เนื่องจากผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพต่ำ (ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย แนะนำของแท้ติดรถ)

ข้อสำคัญอีกเรื่องคือ รถแต่ละรุ่นจะใช้ใบปัดน้ำฝนขนาดที่แตกต่างกัน ในการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน จึงควรจะดูขนาดที่ระบุอยู่ในคู่มือของรถรุ่นนั้นๆ หรือสามารถเทียบดูรุ่นรถที่ระบุไว้บนกล่องใบปัดน้ำฝนได้เช่นกัน ใน กรณีที่ติดใบปัดผิดขนาด ถ้าเล็กไปจะทำให้รัศมีในการปัดน้อยลง ทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ไม่ดี ถ้าใหญ่ไปใบปัดอาจจะเลยขอบกระจก ทำให้ใบปัดเสีย และอายุการใช้งานน้อยลง การเลือกซื้อยางปัดน้ำฝนที่แนบสนิทกับกระจกบังลมหน้า-หลังได้ดี มีความยืดหยุ่นและมีขนาดพอดีกับก้านปัดน้ำฝนเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน

สำหรับเรื่องราวของใบปัดน้ำฝน ในเบื้องต้นนี้ก็สามารถทำให้การขับขี่รถยนต์ได้อย่างปลอดภัย และมั่นใจตลอดหน้าฝนได้ในทุกเส้นทางแล้วครับ


ประชาสัมพันธ์โดย  Q4Car ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง ฟรี!!!!

ที่ปรึกษา ประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำ แหล่งรวมโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตัดด่วนใหม่เชื่อม2วงแหวน คนปทุมหนาวแนวเวนคืนพาดยาว32กม.



     กทพ.สนองคมนาคม เร่งศึกษาตัดทางด่วนใหม่เชื่อม 2 วงแหวน "ตะวันตก-ตะวันออก" 32 กม. ชงบอร์ดเคาะ11 ก.ค.นี้ แก้จราจรพื้นที่โซนเหนือ ทดแทนทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือถูกพับ เล็งหารือทางหลวงเคลียร์พื้นที่ทับซ้อน 19 กม. เลียบคลองรังสิตประยูรศักดิ์ คนปทุมฯแจ็กพอตเวนคืนอื้อ !

     แหล่งข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า วันที่ 11 กรกฎาคมนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.ชุดใหม่มี พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี เป็นประธาน จะมีการพิจารณาโครงการศึกษาเบื้องต้นโครงการทางด่วนสายใหม่เชื่อมถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯด้านตะวันตกและตะวันออก ระยะทางประมาณ 32 กม. ตามนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อทดแทนทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ (N1, N2, N3) ที่จะยกเลิกและสร้างโครงการรถไฟฟ้าขนาดเบาหรือโมโนเรลสายสีน้ำตาล เส้นทางแคราย-บึงกุ่มแทน



     "จริง ๆ แล้วผู้บริหาร กทพ.ไม่อยากยกเลิก เพราะศึกษามาจวนจะเสร็จเดือนตุลาคมนี้แล้ว ก็ต้องหยุดทั้งหมดไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพราะถนนเกษตร-นวมินทร์มีปริมาณรถใช้ทางเยอะมาก การแก้ปัญหาจราจรจะต้องตัดถนนเพื่อขนรถแทนที่จะสร้างรถไฟฟ้ามาขนคน ซึ่งคนย่านนี้เป็นคนที่ไม่น่าจะทิ้งรถในการเดินทาง เป็นนโยบายก็จำเป็นจะต้องดำเนินการ"

     ในผลการศึกษาเบื้องต้นออกแบบเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร จุดเริ่มต้นที่บริเวณถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 13 กม. ใช้พื้นที่เขตทางของทางหลวงหมายเลข 345 (บางบัวทอง-บางพูน-ปทุมธานี)และช่วงจากแม่น้ำเจ้าพระยา-ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก ระยะทาง 19 กม.จะก่อสร้างทางด้านทิศเหนือของคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ไปตามแนวถนน 305 (รังสิต-นครนายก) ในช่วงนี้ให้ กทพ.ไปหารือร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) เนื่องจากกรมทางหลวงมีแผนจะก่อสร้างโครงการถนนยกระดับบนแนวถนนรังสิต-องครักษ์อยู่แล้ว อาจจะทำให้เกิดความซ้ำซ้อนกันได้

     "เมื่อบอร์ด กทพ.อนุมัติแล้ว จะจ้างที่ปรึกษาศึกษาโครงการต่อไป เพื่อศึกษาความเหมาะสมและความคุ้มค่าการลงทุน และหารือกรมทางหลวงเรื่องโครงการซ้ำซ้อนกัน 19 กม. ใครจะรับผิดชอบ"

     สำหรับการเวนคืนที่ดินนั้นมีแน่นอน คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะพื้นที่ค่อนข้างหนาแน่นในช่วงเลยจากคลองรังสิตมาแล้ว โดยเฉพาะบริเวณทางต่างระดับขึ้น-ลงด่านทางด่วนที่จะต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก



ประชาสัมพันธ์โดย  Q4Car ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง ฟรี!!!!

ที่ปรึกษา ประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำ แหล่งรวมโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

“Megabangna Motor Deal” รวมสุดยอดยานยนต์จากแบรนด์ชั้นนำ




“เมกาบางนา” ศูนย์การค้าแนวราบระดับภูมิภาคแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะจัดงาน  Megabangna Motor Deal (เมกาบางนา มอเตอร์ ดีล) หนึ่งในแคมเปญ “Megabangna Family Experience 2013” (เมกาบางนา แฟมิลี่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ 2013) เพื่อเอาใจเหล่าคุณผู้ชายผู้รักในยนตรกรรมทันสมัย จากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ระดับชั้นนำ กว่า 15 แบรนด์ อาทิ จากัวร์, เชฟโรเลต, ซีตรอง, โตโยต้า, นิสสัน, บีเอ็มดับเบิลยู, ฟอร์ด, มาสด้า, เมอร์เซเดส เบ็นซ์, มิตซูบิชิ, เล็กซัส, แลนด์ โรเวอร์, วอลโว,  อิซูซุ และ ฮอนด้า  เป็นต้น  พร้อมรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ค่ายดังอย่าง แคน-แอม, คาวาซากิ และตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถแบบครบครันมาจัดแสดงกันอย่างคับคั่ง

นอกจากนี้ ภายในงาน เมกาบางนา มอเตอร์ ดีล ได้จัดเตรียมไฮไลท์ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้รักในยนตรกรรม กับการจัดแสดง Super Car ที่สุดของรถยนต์ในฝันจากแบรนด์ดังระดับโลก มาพร้อมรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสวยงาม และนวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมให้คุณผู้ชายมาสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด และยังเอาใจคนรักรถยนต์แต่ง ด้วยอุปกรณ์แต่งรถยนต์ที่มีให้เลือกหลากหลายอีกด้วย

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีจากการแสดงและกิจกรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก โจ-ก้อง,            การแสดงดนตรี  Violin Trio, QUAT Acoustic Song, เร้าใจไปกับการแสดงสุดยอดมายากลจาก มามาด้า ไทยแลนด์ สุดยอดนักมายากลไทยที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ที่จะนำผู้ชมสู่มิติแห่งความระทึกใจสุดขั้ว ด้วยการแสดงลอยตัวกลางอากาศ,  สองคู่หูนักมายากลจากมาเลเซีย มาร์ค ยอง และ พิงค์กี้ ลู (Mark Young & Pinky Loo) ที่จะมาร่ายมนต์เปลี่ยนชุดในเวลารวดเร็ว และ               สาวน้อย ริซูกี้ (Rizuki) ที่ได้รับสมญานามว่าเป็นเจ้าหญิงนักมายากลแห่งอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ งาน เมกาบางนา มอเตอร์ ดีล จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 30 กรกฏาคม 2556 นี้ ณ ศูนย์การค้าเมกาบางนา ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mega-bangna.com หรือ โทรศัพท์ 02-105-1000




ประชาสัมพันธ์โดย  Q4Car ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง ฟรี!!!!

ที่ปรึกษา ประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำ แหล่งรวมโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ปัญหาของระบบเบรกจุดสำคัญที่คุณต้องรู้


เบรกตื้อ  เป็นอาการที่เวลาเหยียบเบรก แล้วรู้สึกว่า เบรกมันไม่ค่อยอยู่ เบรกแข็งๆ ต้องออกแรงเหยียบเบรกมากๆ อาการเบรกตื้อ เกิดมาจากหลายสาเหตุ เช่น แรงดูดสุญญากาศของหม้อลมน้อย เพราะปั้มตูดไดชาร์จเสีย หรือผ้าในหม้อลมรั่ว วาล์ว PVC หรือ Combo Vale เสีย สายลมรั่ว

เบรกต่ำ เวลาเหยียบเบรกแล้วรู้สึกว่า แป้นเบรกจมลงต่ำกว่าปรกติ เหยียบค้างไว้เบรกค่อยๆจมลงๆ เป็นอาการของเบรกต่ำ ส่วนมากเกิดมาจาก ลูกยางแม่ปั้มเบรกบน มีอาการสึกหรอ หรือบวม ทำให้แรงดันเบรกลดลง ต้องออกแรงเบรกมากขึ้น หรือต้องเหยียบเบรกซ้ำๆกัน หลายๆครั้ง

เบรกติด อาการเหมือนรถมีอาการเบรกทำงานอยู่ตลอดเวลา รถจะตื้อ เบรกร้อนมีกลิ่นเหม็นไหม้ เบรกปัดซ้าย-ขวา รถวิ่งไม่ออก จอดแล้วเข็นรถไม่ได้ เป็นอาการของเบรกติด ส่วนมากเกิดจาก การลูกยางกันฝุ่นของแม่ปั้มเบรกเสีย ทำให้มีน้ำซึมเข้าไปในกระบอกเบรก จนเกิดสนิมติดขัด ลูกสูบเบรกไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าออกได้
การแก้ไข เปลี่ยนชุดซ่อมแม่ปั้มเบรกล่าง ถอดมาขัดสนิมออก ทั้งแม่ปั้ม และกระบอกเบรก หรือถ้ามีสนิมมากจนเกิดตามด จะทำให้น้ำมันเบรกรั่วซึมได้ ต้องเปลี่ยนลูกสูบเบรก หรือแม่ปั้มทั้งชุด
    
เบรกแตก คืออาการ เหยียบเบรกแล้ว แป้นเบรกที่ขาเบรกจม จนแป้นเบรกกระทบกับพื้นรถ หรือนิ่มหยุ่นๆก่อนแล้วจมลงติดพื้น เมื่อเหยียบเบรกแล้วรถยังคงวิ่งที่ความเร็วเท่าเดิม เหมือนไม่มีเบรก



ประชาสัมพันธ์โดย  Q4Car ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง ฟรี!!!!

ที่ปรึกษา ประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำ แหล่งรวมโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ไส้กรองอากาศรถยนต์


     ไส้กรองอากาศนั้นว่าเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญอย่างหนึ่งในรถยนต์ ที่รักของเรา หน้าที่ของไส้กรองอากาศก็เปรียบได้เหมือนกับขนจมูกของมนุษย์ อย่างเราๆ ไส้กรองอากาศ มีหน้าที่ในการ กรองฝุ่นละอองจากอากาศ เพื่อจะนำเอาอากาศบริสุทธิ์ ไปใช้ผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ที่เราเรียกกันว่า"ไอดี") สำหรับการจุดระเบิดของเครื่องยนต์

     หน้าที่หลักๆของไส้กรองอากาศ คือ กรองฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ปะปนมากับอากาศไม่ให้ไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ ถ้าไม่มีกรองเพื่อจำกัดสิ่งที่ไม่ดีต่อเครื่องยนต์เราเหล่านี้ จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอและเสียหาย  ไส้กรองอากาศยังป้องกันไม่ให้เกิดประกายไฟย้อยกลับ ถ้าไม่ใส่ใส้กรองอากาศ มีโอกาสทำให้เกิดไฟไหม้ในห้องเครื่องยนต์สูงมาก และลดเสียงดังของอากาศที่ถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์

ไส้กรองอากาศที่ใช้กับรถยนต์ ในปัจจุบันส่วนมากเป็นแบบกระดาษแห้ง สามารถเป่าทำความสะอาดได้ มีบางชนิดที่เป็นแบบกระดาษเคลือบน้ำมันแบบนี้เป่าไม่ได้ จะต้องเปลี่ยนอย่างเดียว


      การตรวจไส้กรองอากาศต้องมีการตรวจเช็คตามระยะเวลา เพื่อให้มันมีประสิทธิภาพดีที่สุด ไส้กรองอากาศที่อุดตัน หรือมีฝุ่นผงติดอยู่มาก สิ่งเหล่านี้จะไปอุด ปิดกัน ปริมาณอากาศที่ไหลเข้าเครื่องยนต์ อากาศที่เข้าเครื่องยนต์ได้น้อยลง จะทำให้ส่วนผสมหนาเกินไป เร่งเครื่องยนต์ไม่ค่อยขึ้น รอบขึ้นช้า ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้มลพิษของไอเสียเพิ่มขึ้น ไอเสียมีควันสีดำ และถ้ามีฝุ่นผงเข้าไปในเครื่องยนต์ จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรทำความสะอาดไส้กรองอากาศเป็นประจำ

ขั้นตอนในถอดไส้กรองอากาศ เริ่มจากการปลดคลิปล็อคทั้งหมด ยกฝาครอบด้วยความระวังและดึงไส้กรองอากาศออก ควรระวังสายไปเซ็นเซอร์ต่างๆด้วย  ตรวจดูผิวด้านล่างของไส้กรอง (ด้านที่รับฝุ่น) ถ้าพบว่าสกปรกมาก ควรเปลี่ยนใหม่ ก่อนใส่ไส้กรอง ต้องทำความสะอาดบริเวณตัวเรือนทั้งด้านในและด้านนอก โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำ แล้วเช็ด ห้าม!! ใช้ลมเป่าเด็ดขาดเพราะจะทำให้ผงฝุ่นอาจหลุดเข้าไปในเครื่องยนต์ได้

 ติดตามข่าวสารรถยนต์มากมายได้ที่ >>แวดวงรถยนต์ 
 ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ Q4CAR รับฝากขาย รถยนต์มือสอง รถใหม่ เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!

วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

10 วิธีในการหลีกเลี่ยงใบสั่ง



ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า มีกล้อง CCTV มากมายของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยบนท้องถนน ไม่ว่าจะในเส้นทางปกติ หรือบนทางด่วนท่านก็ไม่รอดสายตาของเจ้าหน้าที่ไปได้ วันนี้เราเลยนำเคล็ดลับดีๆ มาฝากกันว่าจะขับขี่รถอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงใบสั่ง

1.ขับรถให้อยู่ในเลน อย่าคร่อมเลน และขับรถด้วยความเร็วปานกลาง อย่าเร็วเกิน หรือช้าเกินไป

2.คาดเข็มขัดนิรภัย เพราะมีผู้ขับรถจำนวนมากที่ถูกจับเพราะสาเหตุนี้

3.เลือกซื้อรถที่มีสีสันไม่ฉูดฉาด แปลกแต่จริง รถที่มีสีสดจะมองเห็นได้ง่าย รวมถึงตำรวจด้วย เลือกรถที่มีสีแบบธรรม-ชาติ จะถูกจับน้อยลง จริงๆ นะครับ

4.ให้ความสำคัญกับป้ายสัญญาณต่างๆ เครื่องหมายมันจะบอกความเร็วที่คุณสามารถใช้ได้, จะมีอะไรเกิดขึ้นข้างหน้า และถนนจะเลี้ยวไปทางไหน มันสามารถช่วยคุณหลีกเลี่ยงที่จะโดนจับเพราะความเร็ว, โดนปรับ หรือตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายกับรถอีกคัน ดังนั้น ควรให้ความใส่ใจกับป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ

5.อย่าบีบแตรรถโดยไม่จำเป็น การบีบแตรรถเพื่อต้องการให้รถคันอื่นไปให้พ้นทางเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้คุณเองเสียสมาธิในการขับรถ และความสนใจในกฎต่างๆ ลดลง จะปลอดภัยกว่าหากจะปล่อยและหลีกเลี่ยง คนเหล่านี้ นอกจากว่ามันจะทำให้คุณตกอยู่ในอันตราย ไม่อย่าง นั้น คุณเองที่อาจจะได้ใบสั่ง

6.อย่าขับรถเร็ว เราทุกคนรู้สึกผิดที่ไปช้า แต่ลองถามตัวเองหน่อยว่าจำเป็นหรือที่จะต้องไปให้ถึงเร็วขนาดนั้น เราควรไปให้ถึงโดยใช้ความเร็วที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยลดการโดนใบสั่งแต่ยังช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นด้วย

7.อย่าขับรถเปลี่ยนเลน โฉบไปมา การขับรถโฉบเฉี่ยวไปมาจะทำให้เป็นจุดสังเกตได้ง่าย และเป็นการบ่งบอกว่าคุณขับรถในลักษณะที่เป็นอันตราย จึงควรขับรถให้อยู่ในเลนใดเลนหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเลน ต้องแน่ใจก่อนว่าได้ให้สัญญาณที่เหมาะสมแล้ว

8.ตรวจสอบความพร้อมของรถให้สมบูรณ์อยู่เสมอ การขับรถที่มีสภาพไม่สมบูรณ์เป็นรอยบุบ หรือบางส่วนของตัวรถขาดหายไป จะเป็นจุดสังเกตให้ตำรวจเพ่งเล็งเป็นพิเศษว่าคุณเป็นคนขับรถไม่ดีเกิด อุบัติเหตุได้บ่อย จึงควรขับรถที่มีสภาพดีพร้อมใช้งาน และขับรถางมีสติปฏิบัติตามสัญญาณ แล้วตำรวจก็จะไม่มายุ่งกับคุณเลย

9.ขับรถให้ถูกเลน บนทางด่วนจะมีการบอกว่า เลนไหนที่ใช้ได้หรือไม่ได้ ดังนั้นให้สังเกตป้ายประกาศเหล่านี้ให้ดี ถ้าคุณขับคนเดียวก็อย่าเข้าไปในเลนของรถขนส่งมวลชน อย่าหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดโดยขับบนไหล่ทาง พฤติกรรมดังกล่าวทำให้คุณถูกลงโทษจากตำรวจ

10.หากถูกใบสั่ง ต้องสุภาพ และอย่าแก้ตัว ตำรวจต้องการรับฟังคำแก้ตัว ถ้าตำรวจต้องการให้ใบสั่งคุณก็อย่าไปขอให้ช่วย ให้ปฏิบัติตัวอย่างสุภาพ และตอบคำถามอย่างสำนึกผิด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อฟังแค่คำตักเตือน

เมื่อทราบกันอย่างนี้แล้วก็ลองไปทำตามดูนะครับ นอก จากจะไม่โดนใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ยังทำให้เราปลอด-ภัยจากอุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนอีกต่างหาก ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คาสตรอล ประเทศไทย


ประชาสัมพันธ์โดย  Q4Car ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง ฟรี!!!!

ที่ปรึกษา ประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำ แหล่งรวมโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ