วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ขับรถตอนฝนตก เปิดไฟฉุกเฉินวิ่งคิดว่าปลอดภัยแต่อันตรายกว่า


    ในเช้าวันนี้หลายพื้นที่ฝนตกหนัก จะสิ้นปีอยู่แล้วแต่พายุก็ยังไม่ได้จากเมืองไทยไปไหนซะเลย ยังคงวนเวียนมาเรื่อยๆ สำหรับวันนี้ก็มีสาระดีๆ เกี่ยวกับการขับรถตอนฝนตกมาฝากกันค่ะ

     หลายคนเมื่อขับรถตอนฝนตกหนักมักจะใช้ไฟฉุกเฉิน แต่บางคนหารู้ไม่ว่าในขณะที่เปิดไฟฉุกเฉิน ไฟเลี้ยวจะไม่ทำงาน ทำให้เมื่อต้องการเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน รถคันที่ตามมาหรือคันข้างๆ ไม่ทราบเลยว่าเรากำลังจะเลี้ยวหรือกำลังจะเปลี่ยนเลน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หรือบางครั้งฝนตกหนักมากๆ ก็อาจทำให้คันที่ตามมาไม่ทราบว่ารถเสียจอดอยู่ หรือรถกำลังวิ่งอยู่ และบ่อยครั้งที่เกิดอุบัติเหตุด้วยเหตุนี้ นอกจากนี้การเปิดไฟฉุกเฉินยังเป็นการรบกวนสายตาผู้อื่นเกินความจำเป็นอีกด้วย และหากมีรถเสียขึ้นมาจริงๆ และรถคันอื่นใช้ไฟฉุกเฉินกันอย่างพร่ำเพรื่ออาจทำให้คันที่ตามมาเข้าใจผิดว่า ข้างหน้ามีจราจรติดขัดทำให้จอดตามๆ กัน ซึ่งก็ส่งผลให้รถติดยาวเลย

     ซึ่งตาม พรบ.จราจร มาตรา 9 และกฎกระทรวงข้อ 11 กฎหมายแล้วนั้น กำหนดให้ใช้ไฟฉุกเฉิน เฉพาะกรณีรถเสียที่จอดอยู่กับที่เท่านั้น

วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อต้องขับรถตอนฝนตกหนักก็คือ

1.ใช้ความเร็วต่ำ และเปิดไฟหน้า

2.ไม่เปลี่ยนช่องทางหากไม่จำเป็น และไม่ขับรถชิดคันหน้าจนเกินไป

3.ไม่เปิดไฟสูง เพราะรบกวนสายตารถคันอื่นและตัวเองอีกด้วย

4.หมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์ส่องสว่างให้ใช้งานได้ปกติ

     นอกจากนี้บางคนใช้ไฟฉุกเฉินเพื่อข้ามสี่แยก บริเวณสี่แยกนั้น หากเปิดไฟฉุกเฉิน รถทางซ้ายและขวา จะเห็นไฟกระพริบเพียงมุมใดมุมหนึ่งเท่านั้น ทำให้นึกว่าคุณกำลังจะเลี้ยว จึงมิได้ชะลอความเร็วลง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ข้อปฏิบัติที่ถูกต้อง ชะลอความเร็วก่อนถึงแยก มองซ้ายขวาให้รอบคอบ ไม่จำเป็นต้องเปิดสัญญาณ

     อีกกรณีหนึ่งที่ควรทราบก็คือบางคันติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าและหลัง ควรใช้เมื่อทัศนวิสัยแย่มากๆ เท่านั้นนะคะ โดยสังเกตดูง่ายๆว่า หากคุณไม่สามารถมองเห็นไฟท้ายของรถคันหน้า หรือไฟหน้าของรถคันหลัง ในระยะ 50-100 เมตร ก็อาจเปิดไฟตัดหมอกได้ เพื่อให้รถคันอื่นเห็นคุณจากระยะไกลขึ้น และเมื่อทัศนะวิสัยดีขึ้น ควรปิดทันที เพื่อไม่ให้แยงสายตารถคันอื่น เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้ผู้ขับขี่ สามารถใช้ถนนร่วมกันอย่างปลอดภัยขึ้นแล้วล่ะคะ

     ท่านสามารถติดตามเกร็ดความรู้ดีๆแบบนี้ได้อีกมากมายที่ www.q4car.com ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

น้ำมันเครื่องรั่วไหล สาเหตุเกิดจากอะไรบ้างมาดูกัน

ปกติแล้วน้ำมันเครื่องยนต์นั้นจะมีการลดระดับลงจากการใช้งานไปนานๆ ซึ่งจำเป็นต้องตรวจเช็คน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพื่อที่จะได้เติมน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับปกติเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดกับเครื่องยนต์ และเป็นการหล่อลื่นเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งถ้าเกิดอาการน้ำเครื่องหายบ่อยนั้น มีสาเหตุดังนี้

1.เกิดอาการรั่วของน้ำมันเครื่องที่เครื่องยนต์  เมื่อเกิดอาการนี้สามารถตรวจเช็คได้ตาม ประเก็นฝาครอบวาล์ว ซีลยางต่างๆของเครื่องยนต์ ว่ามีคราบน้ำมันไหลออกมาหรือไม่ เพราะซีลยางพวกนี้จะมีการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน เป็นเรื่องปกติและอีกจุดที่สามารถสังเกตุได้ ก็คือ ถ้าจอดรถอยู่แล้วมีน้ำมันหยดลงพื้น แสดงว่าเกิดการรั่วซึมควรรีบตรวจสอบหาจุดรั่วทันที่

2.ลูกสูบ กระบอกสูบ หรือแหวนลูกสูบ มีปัญหา สาเหตุนี้เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้น้ำมันเครื่องหาย หากเครื่องยนต์มีการสึกหรอมาก โดยเฉพาะที่ ลูกสูบ กระบอกสูบ และแหวนลูกสูบ จะทำให้น้ำมันเครื่องเข้าไปเผาไหม้ที่กระบอกสูบจึงเป็น สาเหตุทำให้น้ำมันเครื่องหายอีก1สาเหตุด้วยเช่นกัน

3.ร่องนำวาล์วสึกหรอ อาการนี้ก็จะเหมือนกันการสึกหรอของลูกสูบ คือจะทำให้น้ำมันเครื่องไหลผ่านร่องนำวาล์วแล้วเข้าไปเผาไหม้ในกระบอกสูบ เมื่อเกิดอาการนี้ควรทำการรีปเปลี่ยนร่องนำวาล์วโดยทันที

4.ก้านวาล์วสึกหรอมาก ซึ่งผลของการที่ก้านวาล์วสึกหรอนั้นก็จะมีผลคล้ายๆกับอาการของร่องนำวาล์วสึกหรอ ควรทำการรีบเปลี่ยนด้วยเช่นกัน

5.เครื่องยนต์ร้อนจัด การที่ใช้งานเครื่องยนต์เป็นเวลานานนั้นก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้น้ำมันเครื่องที่ทำการหล่อลื่นเครื่องยนต์ หายได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งควรรีบหาสาเหตุของอาการเครื่องยนต์ร้อนจัดโดยเร็ว นอกจากจะน้ำมันเครื่องหายแล้ว ยังเป็นสาเหตุของความเสี่ยงในการเปิดปัญหาเครื่องยนต์อีกด้วย


ท่านสามารถติดตามเกร็ดความรู้รถยนต์อีกมากมายได้ที่ Q4cqr ค่ะ
หากสนใจทำ ประกันภัยรถยนต์ อยากดูรายละเอียดโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ สามารถดูได้ที่ ทีคิวเอ็ม
เบื่อซ่อม อยากขาย รถมือสอง กำลังมองหา ตลาดรถ เพื่อฝากขาย รถยนต์มือสอง สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Q4car ค่ะ

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2558

จะทำอย่างไรเมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่




     วันนี้ขอนำเสนอเทคนิคในการรับมือกับเหตุยางรถคุณเกิดระเบิดในขณะขับรถอยู่บนท้องถนน   อุบัติเหตุที่เกิดจากยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่ขั้นร้ายแรงที่เกิดขึ้นส่วนมากก็คือ
หากขณะยางระเบิดรถวิ่งอยู่ที่ความเร็วสูงมากๆ  พอยางระเบิดขึ้นมารถก็จะกลิ้งทันที โดยไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นการขับรถที่ใช้ความเร็วสูงๆ จึงมักจะแก้ไขอะไรในเรื่องนี้ได้ยาก

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

น้ำมันเครื่องรถยนต์ เลือกกันอย่างไร

สวัสดี ผู้อ่านทุกท่าน เรื่องที่จะนำมาเล่าให้อ่านกันนั้นเป็นเรื่องที่ดูเหมือนธรรมดาแต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญและคนทั่วไปยังขาดความเข้าใจกันอยู่พอสมควร สิ่งที่กล่าวถึงนั้นเป็นส่วนที่
เราต้องเปลี่ยนบ่อยที่สุดในอายุการใช้งานของรถยนต์คันหนึ่ง หลายคนคงพอจะเดาได้แล้วว่าสิ่งนั้นคือน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ ที่อยากจะกล่าวถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่าหลายๆคนมักจะไม่แน่ใจว่า
จะเลือกน้ำมันเครื่องอย่างไรดี ส่วนใหญ่นั้นมักจะเลือกจากยี่ห้อเป็นหลัก ซึ่งทำให้น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์บางยี่ห้อที่มีคุณภาพดีๆถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายโดยเฉพาะยี่ห้อของคนไทย
มาเริ่มด้วยการอธิบายหน้าที่ของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์กันก่อน