วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ถุงลมนิรภัย

     ถุงลมนิรภัย    ปัจจุบันตลาดรถยนต์ไทยมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอุปกรณ์เสริมด้านความปลอดภัย กลายเป็น
     จุดขายที่สำคัญซึ่งผู้ผลิตใช้ในการโฆษณาคุณลักษณะของรถยนต์
   เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์เริ่มตระหนักถึงคุณค่าของสินค้าที่จะมอบให้กับผู้ บริโภคและในขณะที่ผู้บริโภคเองก็เริ่มหันมาสนใจเรื่องความปลอดภัยว่าเป็น เรื่องที่ใกล้ตัว รวมถึงข้อกำหนดต่างๆ ที่เป็นสากลซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถเอาเปรียบผู้บริโภค ได้อีกต่อไป อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยดังกล่าวที่ผู้ใช้รถยนต์คุ้นเคยแล้ว ได้แก่ ABS หรือระบบป้องกัน ล้อล็อก สำหรับ AIR BAG หรือเราเรียกกันว่า "ถุงลมนิรภัย" ซึ่งแต่เดิมเคยพบเห็นกันในรถยนต์รุ่นใหญ่ราคาแพงนั้น แต่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในรถยนต์รุ่นเล็กที่ราคาไม่สูงนัก หลายรุ่นแล้ว

     ถุงลมนิรภัย คืออะไร
   ถุงลมนิรภัย อุปกรณ์เสริมด้านความปลอดภัย เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้รถยนต์คุ้นเคยมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากสังเกตจุดที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยในรถยนต์จะเห็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ SRS - Supplemental Restraint System หมายความว่าเป็นอุปกรณ์เสริม ไม่ใช่อุปกรณ์หลัก ถุงลมนิรภัยเป็นอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกัน บริเวณหน้าอก และศรีษะที่มีประสิทธิภาพสูง การใช้งานจะได้ผลที่สุดเมื่อใช้ควบคู่กับเข็มขัดนิรภัยเพราะเมื่อเกิด อุบัติเหตุรถชนกระแทกอย่างแรง แม้เข็มขัดนิรภัยจะรัดลำตัวไว้นิ่งแล้วแต่ส่วนของพวงมาลัยอาจจะยุบตัว มากระแทกที่หน้าอกได้ศีรษะและลำคอก็ยังมีโอกาสสะบัดไปมาอาจทำให้เกิดการบาด เจ็บที่ลำคอได้ ถุงลมนิรภัยจึงเข้ามาเติมช่องว่างด้านความปลอดภัยในส่วนนี้
กลไกการทำงานถุงลมนิรภัย
    กลไกการทำงานของถุงลมนิรภัยประกอบด้วยเข็ม จุดระเบิดและลูกบอลเหล็กที่สวมอยู่อย่างคับๆ ในทรงกระบอก ในภาวะปกติเข็มจุดระเบิดจะถูกดันไว้ด้วยล้อพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เข็มจึงไม่สามารถพุ่งไปกดปุ่มระเบิดได้ เมื่อรถหยุดลงอย่างกระทันหันลูกบอลซึ่งมีมวลมากและความเฉื่อยมาก ยังคงไม่หยุดและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าไปดันแขนด้านบนให้เอนออกไป ทำให้ล้อพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ติดอยู่กลางแขนหมุนหลุดออกจากเข็มจุดระเบิด สปริงจะดันให้เข็มพุ่งออกไปกดปุ่มระเบิด ทำให้ถุงลมนิรภัยพอง ตัวอย่างรวดเร็วด้วยก๊าซที่อัดเข้าสู่ตัวถุงลมนิรภัยซึ่งเกิดจากปฏิกิริยา เคมีสารเคมีที่ใช้กัน คือโซเดียมเอไซด์(Sodium Azide) เมื่อถูกจุดระเบิดทางเคมีแล้ว จะสร้างก๊าซไนโตรเจนขึ้นมา แล้วไหลเข้าไปบรรจุในถุงลมนิรภัยที่พับตัวอยู่อย่างรวดเร็ว โดยก๊าซไนโตรเจน นี้มีคุณสมบัติเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่มีอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ นอกจากมีก๊าซไนโตรเจนแล้วยังมีสารเคมีอื่นๆที่เกิดจากการระเบิดนี้ ได้แก่ โซเดียมไฮดรอกไซด์โซเดียมคาร์บอเนตและออกไซด์อื่นๆ สารเหล่านี้มีความเป็นด่างอยู่บ้าง และอาจติดมาตามผิวหนังและใบหน้าของผู้ขับขี่ได้
    ถุงลมนิรภัยจะพองตัวและยุบตัวลงอย่างรวดเร็วมาก บางคนอาจกังวลว่าถ้าถุงลมพองตัวขึ้นมาแล้ว หน้าเราอาจจมค้างอยู่อาจหายใจไม่ออกและมองไม่เห็นทาง แต่ในความเป็นจริงผู้ผลิตได้เจาะรูระบายก๊าซขนาดใหญ่ไว้ที่ด้านหลังของถุงลม ความเร็วของถุงลมนิรภัยขณะพองตัวนั้นสูงกว่า 200กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อพองตัวแล้วจะยุบตัวลงเร็วมากใช้เวลาเป็นวินาทีเท่านั้นผู้ผลิตต้องออก แบบ การพับ การประกอบ และรูปทรงของถุงลมนิรภัย ไว้อย่างดี มิฉะนั้นจะเหมือนกับเอาถุงพลาสติกมาพุ่งชนผิวหนังด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดรอยไหม้บริเวณผิวหนังได้ การออกแบบเบาะนั่ง จึงมีความสำคัญ ในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของถุงลมนิรภัย ซึ่งเคยมีรายงานว่า เกิดการบาดเจ็บของสะโพกและขา ซึ่งเกิดเนื่องจาก
    ตัวผู้ขับขี่ไถลลงไปจาก เบาะนั่ง เรียกว่า Submarineเป็นที่มาของการออกแบบเบาะที่นั่งแบบ Antisubmarine ที่จะป้องกันการลื่นไถลแต่ต้องใช้งานร่วมกันกับเข็มขัดนิรภัยและการออกแบบ โครงสร้างตัวถังรถยนต์ให้มีความแข็งแรง ด้วย
บทสรุป
    อุปกรณ์ทุกชนิดมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย ในอดีตเราอาจเคยได้ยินข่าวถุงลมนิรภัยในด้านที่ไม่ดีมาบ้าง เช่นทำให้เด็กเสียชีวิตเนื่องจากการ ทำงานที่เร็วและแรงมาก แต่ได้มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ไขปรับปรุงให้มีปัญหาน้อยลงเรื่อยๆ ในปัจจุบันถุงลมนิรภัยมีข้อดีมากกว่าข้อเสียมาก คือ ถุงลมนิรภัยสามารถช่วยรักษาชีวิตเราไว้ได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ข้อสำคัญคือผู้ขับขี่รถยนต์ควรต้องศึกษาการใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดคู่มือประจำรถน่าจะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุด

ประชาสัมพันธ์โดย  TQM Insurance Broker
ที่ปรึกษา ประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำ แหล่งรวมโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ

Q4Car ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง ฟรี!!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น